เปิดร้านใหม่หรือเปิดร้านมาสักพักแล้ว แต่ลูกค้าหน้าร้านยังน้อย ลูกค้าเดลิเวอรี่ก็ยังไม่มาก หรือเพราะจะยังไม่มีใครรู้จัก? วันนี้ MHA จะมาแนะนำการยิงแอด Facebook โดยโฟกัสไปที่ลูกค้าระแวกร้านกันดีกว่า ด้วยเทคนิคการยิงแอดแบบ Reach หรือการยิงโฆษณาที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง
shutterstock_1814061017_optimized.jpg 81.02 KB ทำไมต้องยิงแอดแบบ reach เพราะการยิงแอดแบบ reach จะเพิ่มจำนวนคนเห็นโฆษณาได้มากที่สุด เป็นการยิงแอดที่สามารถตั้งความถี่ในการมองเห็นของกลุ่มเป้าหมายได้ และค่าโฆษณาไม่แพงเมื่อเทียบกับโฆษณาแบบอื่น ลองนึกถึงการแจกใบปลิวเพื่อโปรโมทร้าน ตามปกติเราจะแจกใบปลิวในระยะรัศมีที่ลูกค้าสามารถเดินทางไปที่ร้านได้สะดวกหรือสามารถสั่งเดลิเวอรี่ได้ไม่ไกลนัก
การยิงแอด Reach ก็เช่นกัน เป็นการโฆษณาที่ไม่ได้เน้นการขาย แต่เน้นการสร้าง Awareness(การรับรู้) ให้กลุ่มลูกค้ารู้จักร้านของเราก่อน ยังไม่เน้นการทำโปรโมชั่นและสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น ดังนั้นการยิงแอดแบบ reach จึงเหมาะสำหรับร้านอาหารเปิดใหม่ หรือยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
create.png 48.19 KB reach.png 50.4 KB วิธีการยิงแอดแบบ Reach เข้าไปที่ Ad manager ของเพจร้าน กด Create เพื่อสร้างโฆษณา ในหน้าต่างเลือก Objective จะเห็น Reach ให้เลือก จากนั้นกด Continue จะเข้าสู้หน้าการสร้างโฆษณาต่อไป ตั้งชื่อ Campaign โฆษณา จากนั้นให้มาดู Budget(งบประมาณ) โดยสามารถเลือกได้ว่าจะตั้งงบประมาณเป็นรายวัน(Daily budget) หรือ ระยะยาว (Lifetime Budget) แล้วกำหนดงบประมาณคร่าวๆไว้ (*ในเบื้องต้นแนะนำให้ลองยิงแอดแบบรายวันดูก่อนสัก 7 วันเพื่อดูผลที่ได้) จากนั้นกด Next ตั้งชื่อ Ad set จากนั้นตั้งวันเริ่มและสิ้นสุด Ad (แนะนำให้ลองตั้งค่ายิงแอดสัก 7 วันก่อนเพื่อดูผล) ในช่อง Audience ถ้ายังไม่เคยสร้างลูกค้าเอาไว้ ให้ลองสร้างใหม่ได้ โดยกำหนด location ด้วยการปักหมุดให้ตรงกับร้านของเรามากที่สุด เช่น ร้านอยู่ในซอยอะไรให้ search ชื่อซอยนั้น แล้วขยับให้ตรงกับร้านมากที่สุด ก่อนจะ Drop pin เพื่อปักหมุดร้าน สำหรับการปักหมุดร้านให้ตรงจุดมากที่สุดลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ => https://bit.ly/2WBkLJh
เมื่อปักหมุดร้านได้แล้ว เราจะเห็นการตั้งค่ารัศมีรอบร้าน ให้ตั้งค่าเป็น 5 Km จากหมุด สาเหตุที่ตั้งค่าเป็น 5 กิโลเมตร เพราะเป็นระยะทางที่เหมาะสมในการเดินทางมาซื้อหรือมากินที่ร้าน ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที โดยเฉพาะในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่ ที่การจราจรติดขัด ถ้าระยะทางไกลมากลูกค้าจะไม่อยากเดินทางมา รวมถึงการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่จากร้านไปยังลูกค้าระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตร จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีเช่นกัน ซึ่งค่าจัดส่งไม่แพง ดังนั้นลูกค้าในรัศมี 5 กิโลเมตร จึงเป็นลูกค้าที่มีโอกาสในการซื้อมากที่สุด ปักหมุดแล้ว อย่าลืมตั้งค่า อายุ เพศ และลักษณะต่างๆ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของร้านที่กำหนดไว้ สำหรับในส่วนของ Detail อื่น สามารถข้ามไปโดยให้ Facebook เลือกให้โดยอัตโนมัติก็ได้ ตั้ง Language เป็น Thai และ English เพราะคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ใช้ Facebook เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
Placement หรือตำแหน่งที่โฆษณาจะไปวาง ให้เลือก Automatic ไว้ก็ได้ ในส่วนนี้ Facebook จะช่วยจัดการเรื่องการวางโฆษณาให้เราเอง
จากนั้นลองเลื่อนลงมาด้านล่างสุด ที่ Show More Option คลิกเข้าไปจะเป็น Frequency Cap หรือความถี่ในการมองเห็นโฆษณาของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปกติจะตั้งไว้ที่ 1 ครั้งต่อ 7 วัน ลองตั้ง 1-2 ครั้งต่อ 7 วัน ก่อนก็ได้ จากนั้นคลิก Next ตั้งชื่อ Ad name เวลาที่เราติดตามผลจะได้รู้ว่าโฆษณาตัวไหนกำลังทำงานอยู่ หรือจบแล้ว ในกรณีที่มีโพสต์ที่น่าสนใจในเพจอยู่ก่อนแล้ว ในส่วนของ Ad Setup ให้คลิก Use existing post แล้วจึงไปคลิก Select Post ใน Ad creative เพื่อเลือกโพสต์เก่ามาทำการยิงแอดได้เลย โดยให้เลือกโพสต์ที่มีภาพเมนูอาหารที่สวยงามน่ากิน หรือโพสต์อัลบั้มภาพแนะนำเมนูในร้านที่น่าสนใจ หรือมี Engage มากที่สุดในเพจ ควรมี Key Word ที่น่าสนใจ บอกถึงร้าน ที่ตั้งร้าน จุดเด่น หรืออะไรที่ดึงดูดสายตาลูกค้าให้ได้มากที่สุด เมื่ออยู่บน Feed หรือถ้าจะสร้างโพสต์ใหม่ ในส่วน Ad Setup ให้เลือก Create Ad แทน จากนั้นค่อยเลือกรูปภาพหรือคลิปในเพจมาสร้างโพสต์เพื่อยิงแอด แนะนำ : ก่อนสร้างโพสต์ยิงแอดให้ลองศึกษาการทำAd Facebook ให้ขายดี ได้ที่ => https://bit.ly/3lj3HCh ลองเช็คดู Placement ที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งจะเป็นตัวอย่างโฆษณาของเราที่จะขึ้นในหน้า Facebook ของกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในรัศมีที่กำหนดแล้วมีลักษณะตรงกับคุณสมบัติที่เราตั้งค่าไว้ จากนั้นให้กด Publish เพื่อเริ่ม run โฆษณาได้เลย เมื่อทำการยิงแอดไปแล้ว อย่าลืมเข้ามาเช็คยอด reach หลังจากยิงโฆษณาไปแล้วสัก 1-2 วัน เพื่อดูผลที่ได้จากการยิงแอด และเมื่อยอด reach เป็นที่น่าพอใจแล้วให้ทำการปิดโฆษณา เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ย้ำอีกรอบ : การยิงแอดแบบ reach นั้นเน้นการมองเห็นโพสต์ของเราบนหน้า feed ของกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก ดังนั้นการวัดผลจะดูกันที่ยอด Reach เมื่อหมดระยะเวลาโฆษณาที่ตั้งเอาไว้ การยิงแอดแบบนี้ไม่ได้มุ่งหวังในการสร้างยอดขายโดยตรง ดังนั้นหลังจากยิง reach ไปแล้ว ควรจูงใจลูกค้าให้อยากใช้บริการด้วยการทำโปรโมทชั่นต่างๆให้น่าสนใจ และลองทำ Content แนะนำร้านอย่างสม่ำเสมอ