ถอดบทเรียนจากเจ้าของเตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY ที่ล้มมาแล้วถึง 15 ครั้ง จนกลายเป็นแฟรนไชส์ 100 ล้าน!

10 พ.ค. 2564
ในชีวิตการทำธุรกิจคุณเจ๊งมาแล้วกี่ครั้ง? เชื่อแน่ว่าท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่นี้ย่อมต้องเป็นมรสุมแห่งวิกฤตให้เหล่าผู้ประกอบการร้านอาหารต้องฟันฝ่า  ที่น่าเศร้าคือย่อมมีผู้ประกอบการบางส่วนโชคร้าย จำเป็นต้องปิดพับกิจการกันบ้างแน่ๆ และเมื่อถึงเวลานั้นขึ้นมาหลายคนก็อาจจะท้อหมดกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง เราอยากจะให้คุณได้อ่านเรื่องราวของผู้ประกอบการหนุ่มท่านหนึ่ง ซึ่งเคยล้มลุกคลุกคลานกับกิจการเจ๊งมามากถึง 15 ครั้ง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมาอย่างองอาจ และสามารถสร้างแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวแฟรนไชน์ชื่อดังอย่าง ‘เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY’ ซึ่งปัจจุบันมีมากถึงกว่า 400 สาขาทั่วประเทศได้สำเร็จ เชื่อแน่ว่า เรื่องราวของ ‘คุณเต้ย-เกษมพงษ์ ห่วงจริง’ ย่อมจะเติมแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาสู้ต่อได้อย่างแน่นอน!!
เจ๊งมาแล้ว 15 ครั้ง...แต่ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้ ในที่สุดจึงได้ลิ้มรสชาติความสำเร็จ 
‘คุณเต้ย-เกษมพงษ์ ห่วงจริง’
ผู้บุกเบิกแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY
แบรนด์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY เริ่มต้นขึ้นมาได้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นชายหนุ่มคนนี้เคยลองผิดลองถูกลงทุนทำอะไรมาแล้วสารพัด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารอีสาน ร้านลูกชิ้นทอด กล้วยอบน้ำผึ้งทอด ขายผลไม้ ข้าวไข่เจียว หมูปิ้ง แซนด์วิช ร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ น้ำเต้าหู้ กาแฟโบราณ ปลาหมึกปิ้ง ป็อบคอร์นฯลฯ แต่ทุกครั้งไม่เคยมีอะไรที่ใกล้เคียงกับการประสบความสำเร็จเลย แน่นอนว่าเมื่อประสบกับความล้มเหลวซ้ำซาก มาหลายๆ ครั้ง สิ่งที่อดรู้สึกไม่ได้คือหมดหวังกำลังใจ “ในมุมหนึ่งผมท้อใจมากครับ ความรู้สึกมันค่อนข้างจะหดหู่ คือตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองแย่มากเลย แค่เงินจะสำรองไว้ซื้อนมให้ลูกก็ยังไม่พอ ขนาดขายของทั้งทุนและทั้งกำไรรวมกันได้แค่ 800 บาท วันนั้นคือวันที่ผมสะท้อนใจมากที่สุด ผมจะต้องทำอย่างไรให้ลูก ให้ครอบครัวผมสบายได้กว่านี้ แต่ตอนนั้นทางเลือกอื่นมันไม่มี มีทางเดียวคือต้องสู้ ต้องสู้ต่อไป ไม่หยุดครับ”
“โชคดีของผมซึ่งมีภรรยาซึ่งเชื่อมั่น เป็นทั้งเพื่อนคู่คิดและคอยให้กำลังใจผมมาโดยตลอด แฟนของผมเคยเป็นพนักงานระดับบริหารชั้นต้นของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ด้วยความที่เธอเชื่อในตัวผมที่ต้องการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมากๆ เธอจึงเสี่ยงเอาอนาคตเป็นเดิมพันและลาออกจากบริษัท เลือกมาวัดใจกับการลงทุนครั้งนี้ มาทำแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY โดยที่มีเงินทุนแค่ 3,000 บาทเท่านั้น ซึ่งในเวลานั้นยังมองไม่เห็นอนาคตเลยครับว่า เงินก้อนนี้กับร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มันจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวผม” หลังจากฟันฝ่าอุปสรรคและความล้มเหลวมาหลายต่อหลายครั้ง ด้วยใจสู้ไม่คิดยอมแพ้ และบาดแผลที่ได้รับมาตลอดเส้นทางกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้คุณเต้ยดำเนินธุรกิจอย่างชาญฉลาดขึ้น จนทุกวันนี้ ‘เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY’ ได้เติบโตเป็นแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวแฟรนไชนส์ที่มีสาขามากถึง 440 สาขาทั่วประเทศไทย แถมยังขยายสาขาไปไกลยังต่างประเทศ ทำรายได้ทะลุหลัก 100 ล้านบาทไปไกลแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น “ในจำนวนสาขาที่มีทั้งหมด 440 แห่ง เรามีสาขาที่บริหารเองอยู่ 2 แห่ง ส่วนที่เหลือเป็นแฟรนไชส์ทั้งหมด และยังมีสาขาอยู่ที่ประเทศกัมพูชาและลาวซึ่งเพิ่งเปิดด้วย เราตั้งใจว่าจะให้เป็นสาขามาสเตอร์ในแต่ละประเทศที่จะขยายต่อไปในอนาคตครับ แต่ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาทดลองตลาดที่นั่น และทำระบบให้รัดกุมมากขึ้นก่อนครับ”
เพราะเคยเจ๊ง...จึงมีบทเรียน นำมาสร้างธุรกิจให้แตกต่างอย่างสร้างสรรค์
จุดเด่นจุดขายอยู่ที่หม้อไฟ
และน้ำจิ้มให้เลือกอร่อยได้หลากหลาย
“คือหลังจากที่ผมทำธุรกิจเจ๊งมาหลายๆ ครั้ง ก็เห็นครับว่าตัวเราเองผิดพลาดที่ตรงไหน ตอนนั้นมองว่าอาหารเป็นธุรกิจที่อย่างไรเสียคนก็ต้องกิน ผมก็เลยนำสูตรก๋วยเตี๋ยวตำรับราชบุรีของคุณตากับคุณยายมาลองทำขาย แต่ท่ามกลางร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีอยู่มากมาย ก็อยากจะทำให้แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ จึงเกิดความคิดว่างั้นเราลองทำก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟให้คนได้รับประทานกันร้อนๆ และมีน้ำจิ้ม 3 แบบให้คนได้เลือกอร่อยกันได้ตามชอบใจ ภาชนะที่ใช้ตอนนั้นก็เอาถ้วยชามในบ้านมาใช้ ก๋วยเตี๋ยวแต่ละชามก็แตกต่างกันออกไป จึงใช้ชื่อว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟ INDY’ ด้วยทำเลที่ดีและความแปลกใหม่ จึงทำให้มีลูกค้ามากินกันแน่นขนัด และถ่ายรูปแชร์ลงโซเชี่ยล พอขายดีมากๆ เข้าก็มีคนมาติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์เข้ามาเยอะเลยครับ”
ไม่รีบร้อนเร่งขายแฟรนไชส์จึงประสบความสำเร็จได้ไกลขนาดนี้
แม้จะมีคนสนใจติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์เข้ามาเยอะในช่วงนั้น แต่คุณเต้ยก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะขาย สิ่งที่เขาทำคือการขอเวลาศึกษาให้มากขึ้นเสียก่อน “ด้วยความที่ผมเองนั้นทำอะไรเจ๊งมาเยอะ และมองว่าการทำแฟรนไชส์ คือเราต้องนำพาให้คนที่ไว้วางใจทำธุรกิจร่วมกับเราประสบความสำเร็จไปด้วยกันดังนั้นถ้าตัวผมเองเรายังไม่เข้าใจมันดีพอ เราไปนำเขาแล้วเกิดเจ๊งขึ้นมา และหากเงินทุนก้อนนั้นเป็นก้อนสุดท้ายในชีวิตของเขา ความรู้สึกผมก็คงจะแย่มาก  เพราะสิ่งหนึ่งที่ผมทำผิดพลาดมาโดยตลอดในธุรกิจก่อนหน้านี้ก็คือการที่ผมทำอะไรโดยอาศัยเฉพาะแรงสู้ แต่ผมไม่ได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธุรกิจที่จะทำให้ถ่องแท้ ดังนั้นคราวนี้ถ้าเราจะต้องทำแฟรนไชส์ผมก็ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับมันให้ดีเสียก่อน” คุณเต้ยจึงใช้เวลาอยู่นาน 8  เดือน ในการอบรมหลักสูตรจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหาร และนำมาใช้ในการสร้างระบบให้กับแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY
“ถ้าจะให้ฝากถึงร้านที่ตอนนี้ขายดีมากๆ แล้วมีคนมาถามซื้อแฟรนไชส์ ก็อยากจะให้ลองถามตัวเองกันก่อนครับว่า คุณเข้าใจมันดีขนาดไหน ว่าการขายแฟรนไชส์คืออะไร สิ่งที่คุณจะขายให้กับผู้ที่มาซื้อคืออะไร การดูแลเขาหลังจากนั้นคืออะไร และคำถามที่เขาจะต้องมีให้คุณมันจะมีหลายคำถามเลย เช่น ทำไมซื้อไปแล้วถึงขายไม่ดีไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเจ้าของแฟรนไชส์เองล่ะ ทำไมเขาทำแล้วถึงไม่กำไรล่ะ เพราะเมื่อ franchisee (ผู้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์) ยอมจ่ายเงินให้ franchisor (ผู้ขายแฟรนไชส์) นั่นคือสิ่งที่เขาคาดหวัง การที่จะบริหารจัดการอย่างไรให้ได้กำไรย่อมคือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ให้ครบและละเอียดด้วย ไม่อย่างนั้นก็เตรียมตัวเอาไว้ได้เลยครับ อย่างมากคุณก็ได้แค่ขายแฟรนไชส์ แล้วหลังจากนั้นก็เตรียมตัวรับคำติจากผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปได้เลย ซึ่งในระยะยาวนั้นมันไม่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน”
คำแนะนำสำหรับคนที่อยากจะลงทุนเลือกซื้อแฟรนไชส์
“ในทางกลับกัน ผู้ที่คิดจะซื้อแฟรนไชส์ก็ต้องดูความต้องการที่แท้จริงของตัวเองก่อน เช่น คุณต้องการธุรกิจแบบไหน ซื้อมา-ขายไป เป็นธุรกิจค้าส่ง หรือค้าปลีก ธุรกิจแฟรนไชส์คือธุรกิจขายระบบ การบริหารจัดการ ขายภาพลักษณ์ และการดูแลลูกค้า ดังนั้นการที่จะเอาเงินก้อนหนึ่งมาลงทุนกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ผู้ลงทุนควรจะต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนเสียก่อนว่า บริษัทหรือแฟรนไชส์ที่คุณต้องการจะลงทุนนั้นเขาตอบข้อสงสัยต่างๆ ของคุณได้ครบถ้วนแล้วหรือยัง ว่าระบบของเขาเป็นอย่างไร มีระบบดูแลสมาชิกผู้ซื้อแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จไปด้วยกันได้อย่างไรบ้าง ฯลฯ” “ถ้าเขายังตอบไม่ได้ ผมว่าลองไตร่ตรองให้ละเอียดก่อนดีกว่า เพราะว่าการกำเงินเอาไว้ในช่วงเปลี่ยนผ่านยุคสมัยที่เรากำลังจะผ่านวิกฤตโควิดกันไปแบบตอนนี้ มันอาจจะเป็นแค่โอกาสเดียวที่คุณจะเหลืออยู่ก็ได้ ดังนั้นอยากให้ใช้ความละเอียดถี่ถ้วนครับ โชคดีที่โลกทุกวันนี้มีการติดต่อสื่อสารที่ง่าย เข้าถึงเร็ว สืบค้นในอินเทอร์เน็ตได้เลยครับ ดูข้อมูลว่าแบรนด์แฟรนไชส์ที่คุณสนใจนี่เขามีความมั่นคง และน่าเชื่อถือแค่ไหน มีสถาบันใดการันตีบ้างหรือเปล่า และทัศนคติแนวคิดของผู้บริหารของแบรนด์แฟรนไชส์นั้นเป็นอย่างไร ไม่ใช่คุณลงทุนวันนี้ อีก 3 เดือน เขาก็เลิก ลอยแพคุณ แล้วคุณจะทำอย่างไร” 
จุดเด่นของแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY 
เมื่อถามคุณเต้ยถึงจุดเด่นของแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY ในในฐานะแบรนด์แฟรนไชส์เราพอจะสรุปรายละเอียดที่สำคัญได้ดังนี้  1.เป็นแบรนด์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง ‘Product Franchise’ และ ‘System Franchise’ คือขายทั้งสินค้าและระบบ คือมีทั้งสินค้าที่เป็น lock product ซึ่งจำเป็นต้องซื้อจากแบรนด์โดยตรง เช่น หัวเชื้อเข้มข้น และเครื่องเทศ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY ใช้ระบบคอนเทคกับซัพพลายเออร์ที่มั่นคงน่าเชื่อถือให้ เพื่อให้สะดวกสำหรับลูกค้า และแบรนด์ยังได้จัดเตรียมระบบดูแลลูกค้าในด้านต่างๆ ที่จำเป็นไว้ให้ เช่น มีการวางแผนธุรกิจล่วงหน้าทุกๆ 3 เดือน มีการคิดค้นเมนูใหม่ๆ ออกมาเสริมทัพ รวมถึงมีการทำการตลาด ช่วยสาขาประชาสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา  2.ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 19,900 -159,900 บาท โดยแบ่งเป็น 3 แพ็คเกจหลัก ได้แก่ แพ็คเกจเร่ิมต้น 19,900 บาท ที่เหมาะสำหรับลูกค้าผู้ที่มีอุปกรณ์อยู่บ้างแล้ว และมีแนวคิดที่ต้องการอิสระ เช่นต้องการซื้อไปขายเพิ่มในร้านอาหารตามสั่งของตัวเอง อย่างใน food court ตามห้าง หรือตามปั๊มน้ำมัน ส่วนแพ็กเกจที่ 2 ราคา 39,900 บาท ลักษณะเหมาะกับรถเข็น หรือเคาน์เตอร์ขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งมีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้เกือบทั้งหมด ยกเว้นแค่แก๊ส และโต๊ะเก้าอี้ ส่วนแพ็กเกจที่ 3  ซึ่งเป็นแพ็กเกจหลักราคา 159,900 บาท นั้นเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ค่อยไม่มีเวลา และอยากให้บริษัทดำเนินการทุกอย่างให้ ผู้ซื้อแฟรนไชส์แค่มีทำเลมาให้ ทางแบรนด์จะส่งทีมไปวิเคราะห์ หากผ่านตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (วิเคราะห์จากความหนาแน่นของประชากร และจำนวนคู่แข่งที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง) ก็สามารถเปิดร้านได้ แต่ถ้าไม่เหมาะ ทางแบรนด์ก็จะจัดหาพื้นที่เหมาะสมมานำเสนอให้กับลูกค้า
แบบร่างคร่าวๆ ของแพ็กเกจ ร้านเต็มรูปแบบ สู่สาขาจริง
ฝ่ามรสุมโควิด-19
ตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของโควิด-19 ที่ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี ทางแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY ได้มีส่วนช่วยดูแลและสนับสนุนให้สมาชิกสาขาผู้ซื้อแฟรนด์ไชส์ ได้ผ่านมรสุมของโควิดไปพร้อมๆ กัน “แน่นอนอยู่แล้วครับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากโควิดก็คือลูกค้ามาใช้บริการหน้าร้านกันลดลงแต่ทางบริษัทคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วครับว่ามันต้องเกิดภาวะนี้ขึ้นอย่างแน่นอน ตั้งแต่เกิดข่าวที่อู๋ฮั่นในช่วงแรกๆ ตอนแรกคิดว่ามันจะจบภายในสัก 5-6 เดือน ไม่คิดว่ามันจะลากมาข้ามปีแบบนี้ อย่างที่ผมบอกครับว่าเราต้องตอบคำถามกับสมาชิกผู้ซื้อแฟรนไชส์ให้ได้ว่า เขาจ่ายเงินมาให้บริษัทเพื่ออะไร ดังนั้นในภาวะเช่นนี้ เราจึงต้องมีบทบาทหน้าที่ในการดูแล และสนับสนุนให้ทุกสาขาผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกันได้ สิ่งที่เราคาดการณ์เอาไว้ก็คือ Delivery จะเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจรอด เราจึงลงทุนจ้างช่างภาพมืออาชีพถ่ายภาพอาหารในแต่ละเมนูให้มีความสวยงามที่สุด และส่งให้แต่ละสาขานำไปปรับแต่งใช้บนแพลตฟอร์มสั่งอาหาร และทางโซเชี่ยลมีเดียของแต่ละสาขา เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า และเพิ่มยอดขาย เรายังมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับแพ็กเกจจิ้งเพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของเราได้ ด้วยการแปะโลโก้เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY รวมถึงช่องทางการติดต่อ อย่างเบอร์โทร หรือเพจร้าน ซึ่งช่วยทำให้เกิดการซื้อซ้ำ”
Delivery คือทางรอด
เพิ่มเติมคือจุดส่งอาหาร Drive Thru ซึ่งลูกค้าไม่ต้องลงจากรถ
 “นอกจากเสริมเทคนิคให้กับผู้ลงทุน ติดอาวุธให้เขาลงสนามแข่งขัน เรายังได้กำหนดมาตรการให้สาขาต่างๆ ปฏิบัติตามในกรณีต่างๆ เช่น ต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน และรักษาความสะอาดอย่างไร จะต้องทำอย่างไรหากมีผู้ติดเชื้อเข้ามาใช้บริการ เช่น ต้องปิดร้านและทำความสะอาดสาขาแบบ Deep Cleaning จักการให้พนักงานที่มีความเสี่ยงเข้ารับการตรวจเชื้อทันที และต้องแจ้งให้กับลูกค้าทราบทางช่องทางการติดต่อที่มีอยู่ ฯลฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ให้กิจการสามารถดำเนินงานต่อได้อย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งเราได้ทำเป็นทั้งเอกสาร และคลิปวิดีโอเพื่อสื่อสารกับสมาชิกถึงเรื่องต่างๆ เหล่านี้อยู่ตลอดครับ
อย่างล่าสุดนี้ เราก็ได้เพิ่มบริการ Drive Thru ให้ลูกค้าไม่ต้องลงจากรถอีกด้วย คือเราพยายามกำหนดมาตรการและหาวิธีรับมือก่อนที่ปัญหามันจะเกิดขึ้นจริง เพื่อที่สาขาจะได้รู้ว่าควรจะทำอะไรเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมถึงหาทางแก้ปัญหาอื่นๆ ซึ่งผมคิดว่าการติดตามข่าวสารและความสำคัญของข้อมูล หรือ data นั้นสำคัญมากๆ สำหรับโลกเราทุกวันนี้ครับ เพราะจะทำให้เราวางแผนรับมือสถานการณ์และมองหาโอกาสได้ถูก”
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส 
เพราะติดตามข่าวสารอยู่ตลอด ทำให้คุณเต้ยพยายามหาแผนสำรองในการทำธุรกิจอยู่เสมอ เนื่องจากเขามองเห็นว่าในสถานการณ์โควิดระบาดย่อมจะมีผลกระทบต่อกิจการร้านอาหาร จึงได้คิดทำผลิตภัณฑ์ก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ ‘ตุ๋นสยาม (Tun Siam) by เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY’ ซึ่งมีทั้งหมด 4 รสชาติ และใช้เทคโนโลยี Sterilize ภายในซองมีครบหมดทั้งเส้น เนื้อสัตว์ และน้ำซุป เพียงแค่เอาเข้าไมโครเวฟหรือเอาไปต้ม ก็สามารถรับประทานได้ทันที ทั้งยังสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 2 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น จากทีแรกคิดว่าจะขายภายในประเทศ และตามสาขา แต่เมื่อไปออกร้านในงานแสดงสินค้ากลับได้รับออร์เดอร์ถล่มทลายให้ขายในต่างประเทศคือที่ฮ่องกงเป็นหลักจนในขณะนี้กำลังผลิตยังไม่เพียงพอที่จะจำหน่ายภายในประเทศ นับเป็นตัวอย่างที่ดีในการมองหาโอกาส และปรับตัวตามสถานการณ์
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยผลิตภัณฑ์ก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูป
‘ตุ๋นสยาม (Tun Siam) by เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY’
ซึ่งมีทั้งหมด 4 รสชาติ
ส่งกำลังใจถึงเพื่อนผู้ประกอบการ 
“ผมอยากจะบอกครับว่า เวลาเกิดเหตุการณ์วิกฤตระดับโลกแบบนี้ขึ้น มันจะมีสิ่งที่คุณจะต้องสูญเสียไปแน่ ๆ อาจจะเป็นคนใกล้ตัวที่คุณรักเสียชีวิตไป ธุรกิจคุณเจ๊งระเนระนาด แต่มันก็จะมีสิ่งที่คุณยังหลงเหลืออยู่ อย่าลืมมัน ผมอยากให้ทุกคนมองสิ่งที่ยังเหลืออยู่ แล้วพัฒนาสิ่งที่เหลืออยู่ให้มันก้าวหน้า ให้เต็มที่กับมัน อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มันเสียไปแล้ว เพราะมันเอากลับคืนมาไม่ได้ครับ ขอให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่คุณยังเหลืออยู่ และหาทาง หาโอกาสให้มันงอกเงยมาจากตรงนั้น โอกาสยังมีอยู่รอบๆ ตัวครับ แม้จะอยู่ในวิกฤต แต่ก็ยังมีโอกาส ถ้าเราเพียงแต่จะมองหามันให้เจอ นอกจากนี้ผมยังคิดว่าในความโชคร้ายที่เกิดวิกฤตระดับโลก มีความสูญเสียมากมายแบบนี้ มันก็มีความโชคดีที่เรายังมีโอกาสได้ศึกษา ถ้าสมมติคุณเป็นนักธุรกิจ แล้ววันนี้คุณพาธุรกิจคุณผ่านจุดนี้ไปได้ วันข้างหน้าปัญหาอื่นๆ เกิดขึ้นมาก็เป็นเรื่องเล็กๆ แล้วครับ ผมเข้าใจว่าทุกคนกำลังลำบาก แต่ก็ขอส่งกำลังใจ ให้อดทนกันเข้าไว้ ถ้าเราผ่านวิกฤตโควิดโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้ไปได้ อีกหน่อยเจอปัญหายอดขายตก ซัพพลายเออร์ขึ้นราคาสินค้า ฯลฯ เรื่องพวกนี้มันก็จะกลายเป็นแค่ปัญหาเล็กน้อยไปเลย ถ้าคุณผ่านจุดนี้ไปได้” 
  TIPS ในการดำเนินกิจการภายใต้สถานการณ์โควิด
  • ให้ความสำคัญกับ Delivery ผ่านภาพถ่ายอาหาร และบรรจุภัณฑ์ที่บ่งบอกถึง Branding ซึ่งทำให้ลูกค้าจดจำร้านของเราได้ 
  • ให้ความสำคัญกับคุณภาพอาหาร เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว การลดคุณภาพภายใต้ภาวะแบบนี้ จะทำให้ลูกค้าผิดหวังและไม่เกิดการซื้อซ้ำ ธุรกิจของคุณก็จะไม่ยั่งยืน
  • สื่อสารในเรื่องของมาตรการดูแลรักษาความสะอาด และความปลอดภัยของร้านผ่านทุกช่องทาง ลงภาพถ่าย และตารางเวลาทำความสะอาดของร้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า 
  • หากเกิดเคสขึ้นจะต้อง Take Action ปิดร้านทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างเร่งด่วน จัดการให้พนักงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจ เฝ้าระวังกักตัว และสื่อสารกับลูกค้าอย่างทันท่วงทันที 
  • มองหาช่องทาง โอกาสและวิธีใหม่ๆ ที่จะเพิ่มยอดขาย  เช่น เพิ่มบริการ Drive Thrue คิด Product ใหม่ๆ มาช่วยเพิ่มรายได้ 
  • Data หรือข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ หมั่นติดตามข่าวสารอยู่เสมอ และหาแผนรองรับเอาไว้ล่วงหน้า
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจแฟรนไชส์ เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : แฟรนไชส์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ Indy หรือติดต่อได้ที่โทร. 064-150-7227,097-261- 4690 และ Line
สำรวจหัวข้อเพิ่มเติม
เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟแฟรนไชส์บทสัมภาษณ์ และรีวิวร้านก๋วยเตี๋ยวอายุน้อยร้อยล้าน

Keep reading

รับแรงบันดาลใจจากเนื้อหาสำหรับร้านอาหาร

ดูบทความทั้งหมด
คุณสนใจหมวดหมู่ใด